วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

เอาใจคนชอบช็อป รู้ไว้ก็ช็อปปิ้งที่ฮ่องกงอย่างสบายใจ
 
ร้านค้าในโครงการ QTS
 
 
นักท่องเที่ยวสามารถไว้วางใจร้านค้าที่มีเครื่องหมาย QTS ได้ เพราะร้านค้าเหล่านี้ต้องผ่านการประเมินคุณภาพประจำปีที่เข้มงวด เพื่อแสดงว่าร้านค้าเหล่านี้
  • แสดงราคาไว้ให้เห็นเด่นชัด
  • แสดงข้อมูลสินค้าให้เห็นเด่นชัด
  • ให้บริการแก่ลูกค้าอย่างดีเยี่ยม พนักงานที่ให้บริการจะต้องมีความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด สามารถตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่ว

โครงการบริการคุณภาพด้านการท่องเที่ยว บริหารโดยการท่องเที่ยวฮ่องกง ยังให้บริการสอบถามข้อมูลการซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าและร้านอาหารที่ได้รับการรับรองจากโครงการ QTS

เปรียบเทียบราคา
ลองเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ปกติร้านค้าจะติดราคาแสดงไว้ชัดเจน โดยเฉพาะในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ร้านค้าเล็กๆ และตลาดกลางแจ้งอาจไม่ได้ติดราคาไว้ ดังนั้น จึงสามารถต่อรองราคาได้ในร้านเหล่านี้และร้านค้าบางแห่ง

รู้รายละเอียดของสินค้าที่ต้องการซื้อ
เตรียมตัวหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการซื้อให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นรุ่น ลักษณะ ราคา อุปกรณ์เสริม และประกัน รวมไปถึงประกันระหว่างประเทศ ติิดต่อสายด่วนสภาผู้บริโภคที่หมายเลข 2929 2222 เพื่อขอรายชื่อผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นที่นิยม

ระวังสินค้านำเข้าที่ไม่ได้รับอนุญาต
สินค้านำเข้าที่ไม่ได้รับอนุญาตคือ สินค้าที่นำเข้ามาในฮ่องกงโดยบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ระวังสินค้านำเข้าที่ไม่ได้รับอนุญาตซึ่งขายในราคาที่ถูกกว่า เพราะจะรับประกันโดยมีเงื่อนไขหรือจำกัดสิทธิการรับบริการหลังการขายบางอย่าง

ระวังการหลอกสับเปลี่ยนสินค้า
ระวังการหลอกสับเปลี่ยนสินค้า ร้านค้าที่ฉ้อโกงจะจัดแสดงสินค้าและติดราคาไว้คลุมเครือ เมื่อได้รับเงินมัดจำจากลูกค้าแล้ว ทางร้านจะอ้างว่าสินค้าที่ต้องการซื้อหมด และพยายามขายสินค้าอีกชิ้นที่มีคุณภาพต่ำกว่าแต่ขายในราคาที่แพงกว่าชิ้นแรก ดังนั้น ควรดูราคาที่แสดงไว้ชัดเจนเสมอ และเดินดูของให้ทั่ว เตรียมข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ต้องการซื้อให้พร้อม ตรวจอุปกรณ์เสริมที่แถมมา และเลือกซื้อของในร้านค้าที่มีเครื่องหมายของ QTS

ระวังผู้มาชักชวนให้ซื้อสินค้าตามถนน (คนขายของริมถนน)
ระวังหากมีพนักงานขายเข้ามาเสนอขายริมถนน อย่าซื้อสินค้าจากการชักชวนตามถนน และอย่าเดินตามพนักงานขายไปยังโกดังสินค้าหรือโชว์รูม

ตรวจสอบสินค้าอย่างรอบคอบ
ตรวจสอบสินค้าก่อนจ่ายเงิน และดูว่าได้รับอุปกรณ์เสริมมาครบหรือไม่

อย่าซื้อสินค้าผิดลิขสิทธิ์หรือสินค้าลอกเลียนแบบ
เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของตนเอง อย่าซื้อสินค้าผิดลิขสิทธิ์หรือสินค้าลอกเลียนแบบ กรมศุลกากรของฮ่องกงเป็นหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ดูแลคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา หากต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อสายด่วนกรมศุลกากรได้ตลอด 24 ชม. ที่โทร. 2815 7711

ตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน
ตรวจสอบใบเสร็จรับเงินว่ามีการระบุรายละเอียดและข้อตกลงที่ให้ไว้ด้วยวาจาครบถ้วนสมบูรณ์

การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
ร้านค้าในฮ่องกงส่วนใหญ่ยินดีรับบัตรเครดิต ตรวจสอบสลิปบัตรเครดิตก่อนเซ็นชื่อ และอย่าลืมขอใบเสร็จรับเงิน บริษัทบัตรเครดิตและ/หรือธนาคารที่ออกบัตรเครดิตอาจคิดค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในกรณีที่ซื้อสินค้าในต่างประเทศ กรุณาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางสถาบันที่ออกบัตรเครดิต
คำแนะนำในการซื้อทองคำ เครื่องประดับ และนาฬิกาข้อมือ
  • ควรซื้อสินค้าจากร้านที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ควรขอใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้องและระบุรายละเอียดการซื้อไว้ใด้วย
  • กฎหมายระบุว่าเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและทองคำขาว จะต้องได้รับการรับรองความบริสุทธิ์ สำหรับทองคำนั้น โดยทั่วไประดับความบริสุทธิ์จะอยู่ที่ 999.9 (บริสุทธิ์ 99.99%), 999 (บริสุทธิ์ 99.9%), 990 (บริสุทธิ์ 99% สำหรับทองคำ 24 กะรัต), 916.6 สำหรับทองคำ 22 กะรัต, 750 สำหรับทองคำ 18 กะรัต และ 585 สำหรับทองคำ14 กะรัต
  • ราคาขายปลีกของเครื่องประดับทองคำและทองคำขาว ซึ่งมีความบริสุทธิ์ 99% หรือมากกว่านั้น (ที่เรียกกันว่า Chuk Kam หรือ Chuk Pak Kam) ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนัก ความบริสุทธิ์ ความประณีตของช่าง ค่าคอมมิชชั่น และดีไซน์
  • เครื่องประดับทองคำขาวโดยทั่วไปมักประทับตรา 18 กะรัต หรือ 750 หมายความว่าร้อยละ 75 ของเครื่องประดับชิ้นนี้เป็นทองคำ และผสมด้วยโลหะชนิดต่างๆ แล้วชุบด้วยไฟฟ้า (หรือเทคนิคที่คล้ายกัน) เพื่อเปลี่ยนเครื่องประดับดังกล่าวให้กลายเป็นสีขาว เครื่องประดับที่ทำจากทองคำขาว 18 กะรัต เมื่อใส่ไปนานๆ สีมักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
  • หลัก 4C ที่ใช้พิจารณาเวลาเลือกซื้อเพชร คือ น้ำหนัก (Carat), น้ำหรือความบริสุทธิ์ (Clarity), การเจียระไน (Cut) และสี (Colour) ควรขอรายงานจากห้องแล็บเพื่อเป็นคู่มือแนะนำและการรับประกัน
  • เวลาเลือกซื้อไข่มุก ควรตรวจสอบแหล่งที่มา ความวาว ขนาด และสีสัน
  • เวลาเลือกซื้อหยก ควรตรวจสอบประเภท คุณภาพและแหล่งที่มาของหยกชิ้นนั้น
  • หมายเลขโทรศัพท์ที่มีประโยชน์: สมาคมผู้ผลิตเครื่องประดับและช่างทองแห่งฮ่องกง (Hong Kong Jewellers’ & Goldsmiths’ Association) (โทร: 2543 9633) สำหรับเพชรและการตรวจสอบเพชร สามารถติดต่อสหพันธ์เพชรแห่งฮ่องกง (Diamond Federation of Hong Kong ) (โทร: 2524 5081) หากต้องการขอรายชื่อห้องแล็บตรวจสอบอัญมณี สามารถติดต่อสมาคมตรวจสอบอัญมณีแห่งฮ่องกง (Gemmological Association of Hong Kong) (โทร: 2366 6006)

การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บริโภค
กรุณาเก็บใบเสร็จรับเงินไว้เสมอ หากเกิดปัญหา กรุณาติดต่อหน่วยงานต่อไปนี้

การซื้อของหรือสิทธิผู้บริโภค
สายด่วนสภาผู้บริโภค: 2929 2222วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 9.00 น. – 17.30 น. หรือฝากข้อความไว้สำหรับช่วงเวลาอื่น

สินค้าผิดลิขสิทธิ์หรือสินค้าลอกเลียนแบบ
สายด่วนกรมศุลกากร 24 ชั่วโมง: 2815 7711

ข้อพิพาทรุนแรง
ตำรวจฮ่องกง: 999 (24 ชั่วโมง)
 
ขอขอบคุณความรู้ดีๆ จาก discoverhongkong.com ค่ะ
 
สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
Tel: 087-084-2233

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข้อควรปฏิบัติในการดำน้ำ

ระวังอันตรายต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างดำน้ำ !

 


1. ก่อนจะตั้งตัวตรงกับผิวน้ำ หรือนอนหงาย (ขาเราจะลงต่ำ)ให้ก้มดูบริเวณรอบๆก่อนว่าลึกพอหรือไม่ เพราะหากไม่ลึกพอ ขาเราอาจไปโดนปะการังหัก หรือ บาดทำให้เกิดแผลได้ หรืออาจมีหอยเม่นซึ่งเป็นอันตรายอยู่บริเวณนั้นก็ได้



2. ควรรู้ว่าสัตว์ใดที่เป็นอัตรายกันเราได้บ้าง เช่นหอยเม่น หอยเต้าปูน ปลาสิงโต ปลาหิน แมงกระพรุน เป็นต้น

3. ดังนั้นจึงไม่ควรจับหรือแตะต้องอะไร เพื่อความปลอดภัยของเราเอง
 
4. เรื่องการสำลักน้ำ ดังนั้นทุกครั้งที่สูดหายใจเข้าต้องสูดหายใจเข้าอย่างระวังเสมอ จงจำไว้ ว่าให้สูดหายใจเข้าอย่างช้าๆ เพื่อว่าน้ำเข้าหากเกิดน้ำเข้าท่อจะได้มีสติ และเตรียมเป่าน้ำออกได้ทันจะได้ไม่สำลักน้ำ เมื่อไหร่ก็ตามหากมีเสียงน้ำขลุกขลักในท่อให้หาทาง Clear น้ำออกก่อน

5. ขณะอยู่ในทะเลห้ามถอดหน้ากากและ Snorkel ออกโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการสำลักน้ำ จำไว้ว่าหน้ากากต้องใส่อยู่ตลอดเวลาและปากต้องคาบ Snorkel อยู่เสมอ การ Clear น้ำออกจาก Snorkel ด้วยการลอยตัวศีรษะพ้นน้ำแล้วคาย Snorkel ออกจากปากมารินหรือเคาะน้ำออก เป็นวิธีที่ผิด(ถึงแม้จะทำได้ แต่คุณอาจจะสำลักน้ำทะเลได้) และก็ไม่แนะนำให้ใครให้ทำวิธีนี้

6. ขณะนั่งอยู่บนเรือไม่ควรเอามือเกาะกาบเรือโดยเฉพาะตอนเรือจอดหรือขึ้นลงต่อกันหลายๆลำ เพราะอาจถูกเรือลำข้างๆ กระแทกนิ้วมือได้รับบาดเจ็บได้


7. หากต้องการตกหมึกหรือตกปลาในขณะที่นักท่องเที่ยวท่านอื่นกำลังดำน้ำ ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง พยายามอย่าเหวี่ยงเบ็ดไปทางที่มีผู้อื่นกำลังดำน้ำอยู่ แนะนำว่าถ้าหากไม่มีประสบการณ์ ควรมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ใกล้ๆนะค่ะ

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

ขึ้นเครื่องอย่างมีมารยาท



วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเดินทางโดยเครื่องบิน
ความก้าวหน้าของยุคไฮเทคทำให้พัฒนาการด้านการเดินทาง มีคามรวดเร็ว และเป็นที่นิยมใช้กันมากขึ้น หลายครั้งที่เมื่อใช้บริการ เดินทางโดยเครื่องบินแล้วต้องหมดอารมณ์กับพฤติกรรมไร้มารยาท ของผู้ร่วมทาง ที่จริงการเข้าใจวิธีปฏิบัติตัวเพื่อการเดินทางที่ราบ รื่นก็ไม่ใช่ว่าจะยากเย็นอะไรเลย
ที่ชั้นที่นั่ง
ชั้นที่นั่งระดับต่างๆในเครื่องบินจะมีการบริการผู้โดยสารที่ต่างกัน สมัยก่อนเชื่อว่า ยิ่งที่นั่งแพงเท่าไร ก็จะปลอดจากมลภาวะทางพฤติกรรมมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น เพราะคนที่นั่งชั้นหนึ่ง หรือชั้นธุรกิจจะเรียบร้อย กว่าชั้นอื่นๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นความจริงเสียแล้ว เพราะผู้ดีมีสตางค์บางรายก็ไม่ใช่ผู้ดีมีมารยาท วิธีซื้อตั๋ว แพงเพื่อความสุขส่วนนี้จึงไม่ได้ผล แต่สิ่งที่รับประกันได้ก็คือยิ่งที่นั่งแพงเท่าใดก็หมายถึงพื้นที่จะสบาย กว่า บริการดีกว่า และมีอาหารทั้งเครื่องดื่มบริการมากกว่า
ที่สนามบิน ไม่ว่าจะเดินทางครั้งที่เท่าไหร่ ก็มีเรื่องควรระลึกดังนี้คือ
1.
อย่าทำตัวเป็น "คุณนายกระเป๋าใหญ่" หอบข้าวของมากมายติดตัวในกระเป๋าพลาสติกใบยักษ์เตรียม ขึ้นเครื่องควรบรรทุกแต่เพียงพอดีๆ และเลือกกระเป๋าถือที่ขนาดพอเหมาะ
2.
แน่ใจว่าสัมภาระทุกชิ้นมีการติดป้ายชื่อครบและปลอดภัยดีแน่แล้ว ปกติสายการบินจะอนุญาตให้มี กระเป๋าเล็กติดตัวได้เพียง 1 ใบบนเครื่อง อย่าเอาไปเกิน
3.
เพื่อความรวดเร็วเวลาเช็คอิน ให้ถือตั๋วโดยสารไว้ในมือ อย่าใส่กระเป๋า จะได้ไม่เสียเวลา
4.
เลี่ยงการขนสัมภาระที่เป็นโลหะให้มากที่สุด เพื่อความสะดวกยามผ่านจุดตรวจความปลอดภัย เช่น เปลี่ยนมาใช้ลิปสติกปลอกพลาสติกแทนปลอกเหล็ก ใช้กระจกพกพาที่กรอบเป็นพลาสติก เก็บกุญแจ ต่างๆไว้ในกระเป๋าเดินทาง
5.
ควรดูเฉพาะกระเป่าและสัมภาระของตนเองเท่านั้น อย่ายุ่งกับของคนอื่น และจัดการเรื่องของตน เองให้เรียบร้อย เมื่อเช็คอินและเข้าไปในเครื่องและได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ควรลืมมารยาทระหว่างเดินทางเหล่านี้

-
หากต้องการถอดหรือใส่เสื้อหนาว ควรทำให้เรียบร้อยก่อนเครื่องออก และพยายามทำด้วยวิธีไม่รบ กวนคนที่นั่งข้างเคียงให้รำคาญใจ

-
หากต้องการจะหลับในระหว่างไฟลท์ ให้พยายามหาที่นั่งติดหน้าต่าง หรือเลือกที่ซึ่งไม่รบกวนให้ คนด้านใจต้อง 'ปีน' ตัวคุณเพื่ออกไปยังทางเดิน และไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เดินทางด้วยเครื่องบินจนชำนาญสัก เพียงใด ก็ให้รอจนกว่าจะได้ยินคำแนะนำเรื่องระบบปลอดภัยในเครื่องจบลงก่อนจะเข้านอน

-
ควรติดเงินสดไว้กับตัวบ้างเมื่ออยู่บนเครื่องบิน บางทีคุณอาจต้องการของที่ขายในเครื่อง เช่น เครื่อง ดื่มบางชนิดที่เขาไม่ได้แจก หรือเช่าหูฟังเพื่อชมภาพยนตร์

-
อย่าคุยเพลินจนไม่ฟังคำแนะนำเรื่องระบบความปลอดภัยจากพนักงาน เพราะเป็นการเสียมารยาท อย่าางมาก และอย่ากดปุ่มเรียกพนักงานจนกว่าจะมีเรื่องจำเป็นจริงๆเท่านั้น

-
ควรสั่งล่วงหน้าหากคุณต้องการบริการพิเศษด้านอาหาร เช่น มังสวิตรัติ อาหารปลอดเกลือ อาหาร ไขมันต่ำ ฯลฯ อย่างน้อยเป็นเวลา 3 วันก่อนการเดินทาง เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครเตรียมพร้อมให้คุณได้

-
ควรใช้ห้องน้ำในเครื่องบินโดยรักษาความสะอาดและใช้เวลาสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อผู้อื่นจะได้มี โอกาสใช้บ้าง ไม่ควรใช้ห้องน้ำแต่งหน้าหรือโกนหนวด เพราะเรื่องเหล่านี้ คุณควรทำให้เรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้าน

-
ก่อนลงจากเครื่อง สำรวจดุที่นั่งให้เรียบร้อย นอกจากจะให้แน่ใจว่าคุณไม่ลืมสัมภาระแล้วก็ควรแน่ใจ ว่าจะไม่มีเศษอาหารหรือขนมที่คุณหรือลูกกินทิ้งเลอะบนเบาะให้ใครว่าตามหลัง

-
เวลาลงจากเครื่อง ให้คนที่เสร็จและพร้อมจะลงเข้าแถวรอก่อนหากคุณยังไม่พร้อม อย่าเข้าคิวรอจน กว่าคุณเรียบร้อยจริงๆ และไม่มีการส่งใครไปเข้าคิวจองล่วงหน้า
เรื่องของกระเป๋า
น่าแปลกที่กระเป่าที่ฝากไปใต้เครื่องมักมีการหายบ่อยๆ และสถิติการหายของกระเป๋าที่ติดป้ายชื่อกับ ไม่ติดก็อาจหายได้เท่าๆกัน การจดรายการของที่คุณใส่กระเป๋าไว้ให้หมดจะช่วยให้คุณแจ้งลักษณะของมัน ได้ง่ายกว่า และขอชดเชยค่าเสียหายได้ดีกว่าด้วย เพราะสายการบินมักมีขอบเขตความรับผิดชอบให้กับเรื่อง นี้จำกัดมาก
หากคุณมีของมีค่าและนำติดตัวไปด้วยในกระเป๋าเดินทาง ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนตรวจเช็คกระเป๋า เมื่อเช็คอินให้ทราบเพื่อความรัดกุมในการดูแลข้าวของ ควรจัดยาที่ใช้ประจำ เครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เครื่องเพชรและเงินสดไว้ในกระเป๋าเล็กที่ถือติดตัวจะดีกว่า คุณจะได้ผ่านพ้นคืนวิกฤติ เมื่อกระเป๋าหาย และ พร้อมสำหรับการเตรียมตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น
การมีมารยาทดี ส่วนหนึ่งหมายถึงการเตรียมพร้อม เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพะหน้าเพื่อให้ตนเองมีความ มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ เมื่อใดก็ตามที่ต้องเดินทางไกลบ้าน การเตรียมพร้อมกว่าปกติให้เป็น 2 เท่า จะ ช่วยให้รับมือกับทุกปัญหาได้ดีกว่า และจงอย่าสร้างปัญหาให้คนรอบข้างด้วยพฤติกรรมรบกวน หรือความ ประมาทที่อาจนำภัยมาสู่ผู้อื่นได้ ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หากคุณปฏิบัติทุกอย่างถูกต้องดีแล้ว แต่ยังถูกละ เลยหรือได้รับการปฏิบัติอย่างหยาบคายโดยเฉพาะด้านการบริการบนเครื่องบิน จงอย่ารีรอที่จะแจ้งให้ น่วยงานที่รับผิดชอบทราบทันทีหลังจากการเดินทาง จดชื่อผู้ให้บริการ เที่ยวบิน เวลาบิน และเส้นทางการ บินให้ถูกต้อง และรายงานทันทีโดยไม่ต้องรีรอ เพราะสายการบินบางสายก็ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกปฏิบัติกับผู้ โดยสารทั้งที่บริษัทไม่เคยมีนโยบายให้กระทำ

วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเดินทางโดยเครื่องบิน
ความก้าวหน้าของยุคไฮเทคทำให้พัฒนาการด้านการเดินทาง มีคามรวดเร็ว และเป็นที่นิยมใช้กันมากขึ้น หลายครั้งที่เมื่อใช้บริการ เดินทางโดยเครื่องบินแล้วต้องหมดอารมณ์กับพฤติกรรมไร้มารยาท ของผู้ร่วมทาง ที่จริงการเข้าใจวิธีปฏิบัติตัวเพื่อการเดินทางที่ราบ รื่นก็ไม่ใช่ว่าจะยากเย็นอะไรเลย
ที่ชั้นที่นั่ง
ชั้นที่นั่งระดับต่างๆในเครื่องบินจะมีการบริการผู้โดยสารที่ต่างกัน สมัยก่อนเชื่อว่า ยิ่งที่นั่งแพงเท่าไร ก็จะปลอดจากมลภาวะทางพฤติกรรมมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น เพราะคนที่นั่งชั้นหนึ่ง หรือชั้นธุรกิจจะเรียบร้อย กว่าชั้นอื่นๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นความจริงเสียแล้ว เพราะผู้ดีมีสตางค์บางรายก็ไม่ใช่ผู้ดีมีมารยาท วิธีซื้อตั๋ว แพงเพื่อความสุขส่วนนี้จึงไม่ได้ผล แต่สิ่งที่รับประกันได้ก็คือยิ่งที่นั่งแพงเท่าใดก็หมายถึงพื้นที่จะสบาย กว่า บริการดีกว่า และมีอาหารทั้งเครื่องดื่มบริการมากกว่า
ที่สนามบิน ไม่ว่าจะเดินทางครั้งที่เท่าไหร่ ก็มีเรื่องควรระลึกดังนี้คือ
1.
อย่าทำตัวเป็น "คุณนายกระเป๋าใหญ่" หอบข้าวของมากมายติดตัวในกระเป๋าพลาสติกใบยักษ์เตรียม ขึ้นเครื่องควรบรรทุกแต่เพียงพอดีๆ และเลือกกระเป๋าถือที่ขนาดพอเหมาะ
2.
แน่ใจว่าสัมภาระทุกชิ้นมีการติดป้ายชื่อครบและปลอดภัยดีแน่แล้ว ปกติสายการบินจะอนุญาตให้มี กระเป๋าเล็กติดตัวได้เพียง 1 ใบบนเครื่อง อย่าเอาไปเกิน
3.
เพื่อความรวดเร็วเวลาเช็คอิน ให้ถือตั๋วโดยสารไว้ในมือ อย่าใส่กระเป๋า จะได้ไม่เสียเวลา
4.
เลี่ยงการขนสัมภาระที่เป็นโลหะให้มากที่สุด เพื่อความสะดวกยามผ่านจุดตรวจความปลอดภัย เช่น เปลี่ยนมาใช้ลิปสติกปลอกพลาสติกแทนปลอกเหล็ก ใช้กระจกพกพาที่กรอบเป็นพลาสติก เก็บกุญแจ ต่างๆไว้ในกระเป๋าเดินทาง
5.
ควรดูเฉพาะกระเป่าและสัมภาระของตนเองเท่านั้น อย่ายุ่งกับของคนอื่น และจัดการเรื่องของตน เองให้เรียบร้อย เมื่อเช็คอินและเข้าไปในเครื่องและได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ควรลืมมารยาทระหว่างเดินทางเหล่านี้

-
หากต้องการถอดหรือใส่เสื้อหนาว ควรทำให้เรียบร้อยก่อนเครื่องออก และพยายามทำด้วยวิธีไม่รบ กวนคนที่นั่งข้างเคียงให้รำคาญใจ

-
หากต้องการจะหลับในระหว่างไฟลท์ ให้พยายามหาที่นั่งติดหน้าต่าง หรือเลือกที่ซึ่งไม่รบกวนให้ คนด้านใจต้อง 'ปีน' ตัวคุณเพื่ออกไปยังทางเดิน และไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เดินทางด้วยเครื่องบินจนชำนาญสัก เพียงใด ก็ให้รอจนกว่าจะได้ยินคำแนะนำเรื่องระบบปลอดภัยในเครื่องจบลงก่อนจะเข้านอน

-
ควรติดเงินสดไว้กับตัวบ้างเมื่ออยู่บนเครื่องบิน บางทีคุณอาจต้องการของที่ขายในเครื่อง เช่น เครื่อง ดื่มบางชนิดที่เขาไม่ได้แจก หรือเช่าหูฟังเพื่อชมภาพยนตร์

-
อย่าคุยเพลินจนไม่ฟังคำแนะนำเรื่องระบบความปลอดภัยจากพนักงาน เพราะเป็นการเสียมารยาท อย่าางมาก และอย่ากดปุ่มเรียกพนักงานจนกว่าจะมีเรื่องจำเป็นจริงๆเท่านั้น

-
ควรสั่งล่วงหน้าหากคุณต้องการบริการพิเศษด้านอาหาร เช่น มังสวิตรัติ อาหารปลอดเกลือ อาหาร ไขมันต่ำ ฯลฯ อย่างน้อยเป็นเวลา 3 วันก่อนการเดินทาง เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครเตรียมพร้อมให้คุณได้

-
ควรใช้ห้องน้ำในเครื่องบินโดยรักษาความสะอาดและใช้เวลาสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อผู้อื่นจะได้มี โอกาสใช้บ้าง ไม่ควรใช้ห้องน้ำแต่งหน้าหรือโกนหนวด เพราะเรื่องเหล่านี้ คุณควรทำให้เรียบร้อยตั้งแต่ที่บ้าน

-
ก่อนลงจากเครื่อง สำรวจดุที่นั่งให้เรียบร้อย นอกจากจะให้แน่ใจว่าคุณไม่ลืมสัมภาระแล้วก็ควรแน่ใจ ว่าจะไม่มีเศษอาหารหรือขนมที่คุณหรือลูกกินทิ้งเลอะบนเบาะให้ใครว่าตามหลัง

-
เวลาลงจากเครื่อง ให้คนที่เสร็จและพร้อมจะลงเข้าแถวรอก่อนหากคุณยังไม่พร้อม อย่าเข้าคิวรอจน กว่าคุณเรียบร้อยจริงๆ และไม่มีการส่งใครไปเข้าคิวจองล่วงหน้า
เรื่องของกระเป๋า
น่าแปลกที่กระเป่าที่ฝากไปใต้เครื่องมักมีการหายบ่อยๆ และสถิติการหายของกระเป๋าที่ติดป้ายชื่อกับ ไม่ติดก็อาจหายได้เท่าๆกัน การจดรายการของที่คุณใส่กระเป๋าไว้ให้หมดจะช่วยให้คุณแจ้งลักษณะของมัน ได้ง่ายกว่า และขอชดเชยค่าเสียหายได้ดีกว่าด้วย เพราะสายการบินมักมีขอบเขตความรับผิดชอบให้กับเรื่อง นี้จำกัดมาก
หากคุณมีของมีค่าและนำติดตัวไปด้วยในกระเป๋าเดินทาง ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนตรวจเช็คกระเป๋า เมื่อเช็คอินให้ทราบเพื่อความรัดกุมในการดูแลข้าวของ ควรจัดยาที่ใช้ประจำ เครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น เครื่องเพชรและเงินสดไว้ในกระเป๋าเล็กที่ถือติดตัวจะดีกว่า คุณจะได้ผ่านพ้นคืนวิกฤติ เมื่อกระเป๋าหาย และ พร้อมสำหรับการเตรียมตัวในเช้าวันรุ่งขึ้น
การมีมารยาทดี ส่วนหนึ่งหมายถึงการเตรียมพร้อม เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพะหน้าเพื่อให้ตนเองมีความ มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ เมื่อใดก็ตามที่ต้องเดินทางไกลบ้าน การเตรียมพร้อมกว่าปกติให้เป็น 2 เท่า จะ ช่วยให้รับมือกับทุกปัญหาได้ดีกว่า และจงอย่าสร้างปัญหาให้คนรอบข้างด้วยพฤติกรรมรบกวน หรือความ ประมาทที่อาจนำภัยมาสู่ผู้อื่นได้ ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หากคุณปฏิบัติทุกอย่างถูกต้องดีแล้ว แต่ยังถูกละ เลยหรือได้รับการปฏิบัติอย่างหยาบคายโดยเฉพาะด้านการบริการบนเครื่องบิน จงอย่ารีรอที่จะแจ้งให้ น่วยงานที่รับผิดชอบทราบทันทีหลังจากการเดินทาง จดชื่อผู้ให้บริการ เที่ยวบิน เวลาบิน และเส้นทางการ บินให้ถูกต้อง และรายงานทันทีโดยไม่ต้องรีรอ เพราะสายการบินบางสายก็ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกปฏิบัติกับผู้ โดยสารทั้งที่บริษัทไม่เคยมีนโยบายให้กระทำ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Eduzones.com

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง

สำหรับนักเที่ยวมือใหม่ ที่ต้องการเลือก กระเป๋าเดินทาง สักใบ แต่ไม่มีความรู้ในการเลือกสักเท่าไหร่ วันนี้เรามีทริคเล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำกันคะ สำหรับวิธีการเลือกซื้อ แน่นอนว่าคุณจะได้ของดีในราคาประหยัด และคุ้มค่าการใช้งานสุดๆ


1. ล้อ
ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายใน กระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบินเพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้ สำหรับ กระเป๋าเดินทาง ที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ควรดูขนาดให้ถูกตามกฎเกณฑ์ของสายการบินที่เค้ากำหนดไว้
2. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหด
ควรติดตั้งและยึดเกาะกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นแบบพับ ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เวลาเราชักเข้าชักออก
3. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)
Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงแตกต่างกันด้วย เช่น polyester 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไป ตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับ กระเป๋าเดินทาง ที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier
4. การรับประกัน
กระเป๋าเดินทาง ทุกยี่ห้อ จะรับประกันก็ต่อเมื่อ มีความเสียหายที่เกิดจากการ ผลิต เท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุดหรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขาย ดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนัก เวลาเลือกซื้อควรตรวจตรา ดูองค์ประกอบต่างๆให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสิ้นใจซื้อเสมอ
5. การซื้อ กระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มค่าในการลงทุนซื้อ กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานของ กระเป๋าเดินทาง ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าเดินทางที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่อย่าลืมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยนะจ้ะ
6. ไม่ต้องกังวลว่า กระเป๋าเดินทาง ใบใหญ่กว่าจะหนักมากกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าเดินทางไม่พอคุณต้องซื้ออีกใบที่ น้ำหนักอย่างต่ำก็ ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก มองดูแล้วมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
7. กระเป๋าเดินทาง ใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปคนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงในกระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน
8. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ american tourister เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น travelpro eminent echolac delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดีกว่า ที่จะเน้นหนักไปที่ยี่ห้อนะคะ
9. ซื้อ กระเป๋าเดินทาง กับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
เพราะ กระเป๋าเดินทาง เดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขาย เกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่างๆ การบริการหลังการขาย

ได้เทคนิคดีๆกันไปแล้วก็เลือกที่เหมาะกับคุณนะคะ

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

แถวแบบตลาดๆ ที่สมุทรสงคราม
 
เมื่อวานพาเที่ยวสมุทรสงครามโดยรถไฟมาแล้ว วันนี้ขอเสนอที่เที่ยว ที่กินในสมุทรสงครามกันค่ะ
ไปกันเลย
 
 
ตลาดน้ำอัมพวา (ตลาดน้ำยามเย็น) ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในอดีตเมืองอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้
และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2547 ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูตลาดน้ำแท้ๆ ได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น" ซึ่งในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจะรู้จักในนามของ "ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวาจะมีทุกวันศุกร วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่หยุดต่อเนื่อง แต่เวลา 13.00-22.00 น.
ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

 


ตลาดร่มหุบ ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสงคราม
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ กีะจาด กระบุง ตะกร้า จะถูกจัดวางเข้าๆ ออกๆ อย่างเป็นระเบียบและรวดเร็วภายในพริบตา แต่เหล่านี้คือมนต์เสน่ห์ของ "ตลาดร่มหุบ" ตลาดเร้าใจ ด้วยมีจุดขายด้วยความเสี่ยงที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะตั้งแผงขายอยู่ริมทางรถไฟของสถานีรถไฟแม่กลองแบบประชิดรางรถไฟ เวลารถไฟมาก็ต่างหุบร่มที่กางและเก็บสินค้าภายในพริบตา จนเป็นที่มาของชื่อตลาดร่มหุบนั่นเอง
ตลาดร่มหุบ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดรถไฟ เป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาล จังหวัดสมุทรสงคราม เริ่มประมาณปี 2527 บททางรถไฟ สายแม่กลอง-บ้านแหลม พ่อค้า-แม่ค้า ตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นที่จับจ่ายซื้อของ อาหารที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยติดอันดับนั่นก็คือ ปลาทู หน้างอ คอหัก ที่ต้องบอกว่าอร่อยที่สุด โดยเฉพาะหน้าหนาว
แต่ถ้าใครอยากมาเที่ยวที่นี่เพื่อดูร่มหุบแล้วละก็ คงต้องมากันให้ถูกเวลา แนะนำให้มาช่วงเวลารถไฟวิ่งผ่านตลาดร่มหุบ วันละ 8 รอบ (โดยประมาณ) ดังนี้ 06.20 น. 08.30 น. 09.00 น. 11.10 น. 11.30 น. 14.30 น. 15.30 น. และ 17.40 น.
 
 
 
ตลาดน้ำท่าคา ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งหนึ่งที่คู่มากับจังหวัดสมุทรสงคราม ก็คือแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่ ซึ่งมีอยู่มากมาย ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านผูกพันกับแม่น้ำลำคลองเรื่อยมา ทั้งการสัญจรไปมาหาสู่กัน การประกอบอาชีพต่าง ๆ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และสิ่งหนึ่งที่สะท้อนภาพชุมชนริมน้ำได้ชัดเจน คือ ตลาดน้ำ ที่มีมาตั้งแต่ครั้งอยุธยา ในสมัยนั้นชาวบ้านจากสมุทรสงครามจะพายเรือนำพืชผัก ผลไม้ กุ้ง หอย ปู ปลา กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง ปลาเค็ม ล่องเข้าไปขายต่อเนื่องถึงสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ก่อนที่ตลาดน้ำจะค่อยๆ ลดน้อยลงไปราว 60 ปีที่แล้วเมื่อการสัญจรทางบกสะดวกขึ้น ภาพความคึกคักจอแจของผู้คนและเรือบรรทุกพืชผล สินค้า แน่นขนัดในลำคลอง เสียงเจรจาซื้อขาย พูดคุยทักทายกันทั่วท้องน้ำ นับวันจะหาดูได้ยากยิ่ง แต่ความมีชีวิตชีวาเหล่านี้ยังคงมีอยู่ที่ "ตลาดน้ำท่าคา"
ตลาดน้ำจะมีในวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันขึ้นหรือวันข้างแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00- 12.00 น
บริเวณตลาดน้ำท่าคาบรรยากาศสองฝั่งน้ำร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าวและสวนผลไม้ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือออกมาจากสวน บ้างก็มาจากละแวกใกล้เคียงบรรทุกผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ ล่องมาขาย สินค้าที่หลากหลายเหล่านี้เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวในท้องถิ่น สภาพภูมิประเทศ พืชพันธุ์ ผลผลิต วิถีชีวิตผู้คน ตลาดน้ำจึงเป็นตัวเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันไว้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางการพบปะของคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวจากภายนอก บริเวณที่ติดตลาดมีทางเดินปูนริมน้ำและสะพานข้ามคลอง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตลาดน้ำได้อย่างทั่วถึง
บริเวณด้านหน้าทางเข้าตลาดน้ำมีศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตลาดน้ำท่าคา มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ในชุมชนจำหน่าย มีการสาธิตการเคี่ยวตาล หยอดตาล และบริการพาล่องเรือเที่ยวสวน
 
สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
Tel: 087-084-2233

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

นั่งรถไฟเที่ยวกัน

         


วันเสาร์อันแสนสบายแบบนี้ เราขอนำเสนอทริปสั้นๆ แบบวินเทจแต่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานของครอบครัว วันนี้เราจะเดินทางไปสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นเมืองที่ใครๆ ก็ขับรถผ่านแต่ไม่เคยแวะ วันนี้เราจะนั่งรถไฟเที่ยวสมุทรสงครามกันค่ะ
การเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟเส้นทางที่สั้นที่สุด...ในประเทศไทย...ไปท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม (แม่กลอง)เริ่มต้นการเดินทางจากฝั่งธนบุรี...ที่สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ตีตั๋วสุดสายปลายทางลงที่สถานีมหาชัย(จังหวัดสมุทรสาคร)ใช้ระยะการเดินทาง 1 ชั่วโมง เมื่อถึงสถานีมหาชัย ต้องเดินไปที่ท่าเรือ เพื่อข้ามฝั่งไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านแหลม
การทางเดินไปลงเรือ สังเกตุง่ายๆ ดังนี้ เมื่อลงจากรถไฟให้เดินตรงไปกับทางขนานรางรถไฟ หรือเมื่อออกด้านหน้าของชานชลา จะเห็นป้อมตำรวจมีตลาดอาคารพาณิชย์ เลี้ยวไปทางขวา เดินผ่านแม่ค้าไปเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตร สังเกตุง่ายซ้ายมือเมื่อเดินไปจะเห็นท่าเรืออยู่ 2 ท่า ถ้าคุณถึงมหาชัยเป็นช่วงที่เวลารถไฟ เป็นเวลาใกล้เคียงกับขบวนฝั่งบ้านแหลมจะได้เวลาออก คุณต้องลงเรือท่าเล็ก ซึ่งจะรอผู้โดยสารที่มาจากขบวนรถไฟวงเวียนใหญ่ ซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆติดกับท่าเรือใหญ่ (ท่าเรือรับลม) เรือจะนำไปจอดเทียบที่ท่าเรือสถานีบ้านแหลม และถ้าเดินทางก่อนถึงเวลารถไฟฝั่งบ้านแหลมจะออก และต้องรอเวลารถไฟฝั่งบ้านแหลม คุณต้องข้ามเรือที่ท่าเรือรับลมข้ามไปฝั่งท่าฉลอม ท่าเรือนี้จะมีทั้งรถมอร์ไซค์และผู้โดยสารเยอะมาก เมื่อข้ามไปกับเรือ เมื่อเรือถึงฝั่งท่าฉลอม เดินตรงออกไปถึงแยกถนนซอย สังเกตุง่ายๆจะมีรถสามล้อถีบรอรับผู้โดยสาร แต่เราไม่นั่ง ให้สังเกตุมองไปทางขวามือ จะเป็นบ้านตึกแถวเก่าๆ รถไฟอยู่ติดวัด เดินไปประมาณ 300 เมตรจะถึงวัดแหลม(วัดแหลมสุวรรณณาราม)ที่นี่มีโบสถ์เก่าสมัยโบราณ และสถานีบ้านแหลมอยู่ติดกับวัดแหลม ในขณะที่เดินไปสถานี มีวิถีชีวิตสิ่งที่น่าสนใจสองฝั่งถนนของทางเดิน จะมีชาวบ้านตากปลาหมึก ปลาเค็ม และมีวางขายในราคาผู้ผลิต แต่อย่าลืมต่อลองเขาบ้างก็จะดี
รถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดในประเทศไทย สมัยก่อนรถไฟจะวิ่งไป-วิ่งมา ประวันละ 40 เที่ยว เดี๋ยวนี้เหลือเวลารถไฟวิ่งวันละ 4 เที่ยว เพราะอาจเป็นเส้นทางสายรถไฟที่ถูกลืม และด้วยการเจริญเติบโตของสังคมและเศรษฐกิจ ปัจจุบันได้รับการเติมเต็มจากโครงการนั่งรถไฟฟรี ส่งผลทำให้มีผูโดยสารมากขึ้น
สีสันการเดินทางรถไฟสายแม่กลองมุมมองที่น่าสนใจคือ..สภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชนยังเป็นที่น่าสนใจ ตลอดเส้นทางขบวนจะวิ่งผ่านป่าโกงกาง ป่าลำพู ผ่านนากุ้ง นาเกลือ ฟาร์มนกกระจอกเทศ บ้านทะระหัสชกมวย กังหันปั่นน้ำเข้านาเกลือ ช่วงเวลาขบวนเช้าๆ ชาวบ้านจะหิ้วถังปูแสมสดๆไปขายที่ตลาดเสี่ยงตาย หรือตลาดร่มหุบ ที่ทางรถไฟแม่กลอง และอีกมุมมองที่น่าขบขันมหัศจรรย์ไทยแลนด์ คือ...ทุกๆวันเวลา 4 โมงเย็น เมื่อใกล้เวลาฝูงลิงแสมจะออกมาจากป่า มานอน มานั่ง หยอกล้อต่อกัน หาเหาจับหมัด กินเห็บ ไล่จับกัดกันบ้างอย่างสนุกสนาน ที่น่าแปลกใจเมื่อขบวนรถไฟกำลังวิ่งมา เราผู้เฝ้าดูยังไม่รู้หรือได้ยิน แต่ลิงรู้และร้องโฮวๆๆๆเหมือนทาร์ซานเรียกเพื่อน อ้าปากฟันขาวเท่านั่นแหละฝูงลิงที่อยู่ด้านในป่าจะวิ่งออกมาสมทบ และวิ่งสวนทางในขณะที่รถไฟกลังวิ่งสวนมา ลิงวิ่งอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะถูกชน ด้วยการประมาณการการหยุดของฅนกับลิงพอดีกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ รฟท.นำของฝากจากแม่ค้าตลาดแม่กลองเทพืชผักผลไม้ที่แม่ค้าต่างฝากมาให้ ลิงทุกตัวต่างดีใจคว้ากันทั้งคาบทั้งอมหิ้วกลับเข้าป่าอย่างไม่สนใจฅนดู และจากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ รฟท.บอกว่า"วันไหนถ้าเกิดเหตุขบวนรถขัดข้อง หรือแม่ค้าไม่มีของฝาก เศร้าแรกพวกลิงเค้ารอเก้อชะเง้อแล้งชะเง้ออีก เศ้ราที่ 2 วันไหนขบวนผ่านมาแต่ไม่มีของฝากพวกเขาเหล่าลิงแสมสายตาระห้อยมองขบวนรถไฟจนคล้อยหลุดสุดสายตา ถ้าท่านสนใจจะไปทักทายให้ทานอาหารลิงฝูงนี้ ต้องขึ้นบขวนที่สถานีแม่กลอง เวลา 15.30 น.ขบวนรถจะถึงจุดที่ลิงรอประมาณ 16.10 น.ก่อนถึงสถานีบ้านกาหลงเพียง 400 เมตร
สนุกมั้ยคะ ไว้คราวหน้าจะพานั่งรถไฟเที่ยวอยุธยากันค่ะ

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

เกาะหลีเป๊ะ
 
 
 
ชายหาดบนเกาะหลีเป๊ะ อุดมไปด้วย ท้องทะเลที่ใสสะอาด เกาะที่เงียบสงบ และน้ำที่ตื้นเขิน โดย เกาะหลีเป๊ะ มีหาดที่สำคัญๆ อยู่ 4 หาดคือ
  • หาดพัทยา อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปมาก
    แนะนำที่พักบนหาดพัทยา เกาะหลีเป๊ะ:
    Bundhaya Resort, Sita Beach Resort & Spa
  • หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออก ใกล้ๆ กับหมู่บ้านชาวเล
    แนะนำที่พักบนหาดซันไรท์ เกาะหลีเป๊ะ:
    Idyllic Concept Resort
  • หาดคาร์มา อยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งหันหน้าเข้าเกาะอาดัง
  • หาดซันเซ็ท อยู่ทางทิศตะวันตก หันหน้าเข้ารับแสงอาทิตย์ ตามชื่อของหาด
  • ภาพจาก Idyllic Concept Resort
เกาะหลีเป๊ะ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอาดัง และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวน้ำประมาณ 500 คน ซึ่งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เกาะหลีเป๊ะอยู่บนเกาะลันตาในจังหวัดกระบี่ พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการประมง และการเพาะปลูกผัก ปลูกข้าวอยู่บนเกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ อยู่นอกเขตอำนาจของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ดังนั้นจึงได้รับการยกเว้นจากกฎหมายของอุทยานแห่งชาติ เกาะหลีเป๊ะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ ปัญหาขยะและการอนุรักษ์สัตว์มากขึ้นตามไปด้วย หนึ่งในเหตุผลที่จำนวนของนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่เพิ่มมากขึ้นก็คือ รายการ "Tarutao Survivor" ซึ่งเป็นรายการที่นำเสนอการใช้ชีวิตบนหมู่เกาะตะรุเตา แบบเรียลลิตี้โชว์
เกาะหลีเป๊ะ ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายอุทยาน ดังนั้นจึงมีการจำกัดสถานที่สำคัญไว้ส่วนหนึ่งบนเกาะอาดัง บังกะโลหลายแห่งเริ่มก่อสร้างขึ้นในหมู่บ้านหลักๆ ตามแนวชายฝั่งตะวันออกและหาดพัทยา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะหลีเป๊ะ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและร้านค้าอีก 2 - 3 แห่งอีกด้วย คุณ สามารถเดินไป-มาระหว่างหมู่บ้านกับหาดพัทยา โดยใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีเท่านั้น หรือใช้บริการของเรือหางยาวที่บริการผู้โดยสาร เสียค่าใช้จ่ายคนละ 30 บาท
มีแนวปะการังอยู่ด้านใต้ของเกาะเล็กๆ และอ่าวเล็กๆ น้อยๆ มากมาย ชาวน้ำจะคอยให้บริการเช่าเรือเพื่อท่องเที่ยวไปยังเกาะรอบๆ ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังมากมาย
หาดพัทยา เป็นหาดที่มีความสวยงามที่สุดใน 2 หาดหลักๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่หน้าหมู่บ้านชาวเล ซึ่งเป็นท่าที่ใช้จอดเรือเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มีเกาะเล็กๆ อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับหมู่บ้าน หรือเรียกว่า "เกาะกระ" เป็นเกาะที่ได้รับการอนุรักษ์แนวปะการังไว้อย่างดั เหมาะสำหรับการดำน้ำชมความสวยงามของแนวปะการัง นอกจากนี้ คุณยังสามารถที่จะว่ายน้ำ หรือเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย
คุณสามารถที่จะตั้งแคมป์ที่นี่ได้ หรืออาจจะเช่ากระท่อมจากชาวน้ำ ในราคาเพียง 200 - 300 บาท ต่อคืนเท่านั้น หรือคุณอาจจะเดินทางไปพักตามบังกะโลต่างๆ ที่มาเปิดให้บริการตลอดแนวชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกก็ย่อมได้
ที่กิน ที่เที่ยวบน เกาะหลีเป๊ะ
โดยแท้จริงแล้ว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาจะเปิดเฉพาะเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนพฤษภาคม นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในช่วงฤดูมรสุมจะสามารถเข้าพักในที่พักที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตาได้ แต่ท่านจะต้องนำอาหารมาเองจากบนเกาะ หรือไม่ก็พักกับชาวน้ำบนเกาะหลีเป๊ะ
 
ในเดือนพฤษภาคมที่จะมาถึงนี้ ทางน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ ได้จัดทัวร์เดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ และ
เกาะลังกาวี 4 วัน 3 คืน เดินทางโดยเครื่องบินท่านใดที่สนใจเดินทางไปกับเรา สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ 087-084-2233 หรือ E-Mail: nanfahtour@gmail.com ค่ะ

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

ป้องกันผมเสียจากคลอรีนในสระว่ายน้ำ
 
 
 
หลาย ๆ คนหนีร้อนด้วยการกระโดดลงสระว่ายน้ำ แหวกว่ายให้เย็นชื่นใจ แต่ในขณะที่ร่างกายเย็นสดชื่น
เส้นผมของเรากลับถูกทำลายลงในเวลาเดียวกัน เนื่องจากคลอรีนที่มีอยู่ในสระว่ายน้ำนั่นเอง
“คลอรีน”?เป็นสารที่เติมลงในสระว่ายน้ำ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำลายคราบโปรตีนต่าง ๆ ทำให้น้ำสะอาดตลอดเวลา แต่ของแถมที่ไม่พึงปรารถนาก็คือมันสามารถทำลายเส้นผมของเราซึ่งเป็นสาร ประกอบจากโปรตีนเช่นกัน
หลังจากว่ายน้ำเราจึงสังเกตได้ว่า ผมจะแห้งหยาบกว่าปกติ ยิ่งในผู้ที่ว่ายน้ำเป็นประจำอยู่แล้ว ผมก็จะยิ่งแห้งเสีย เปราะขาดง่าย ไร้น้ำหนัก ส่วนผู้ที่ทำสีผมหรือทำไฮไลต์มา คลอรีนก็จะทำให้สีผมผิดเพี้ยนไปได้เร็วขึ้น ยิ่งเป็นสีอ่อนอย่างสีบลอนด์ ผมอาจเปลี่ยนกลายเป็นสีเทาได้เลยทีเดียว ยิ่งลงว่ายน้ำกลางแดดจัด ความร้อนจากแสงแดดจะเปิดเกล็ดผม ทำให้คลอรีนแทรกซึมถึงแกนผมและทำร้ายผมได้รุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันเส้นผมจากคลอรีนในสระว่ายน้ำ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ดูนะคะ
หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำกลางแดดจัด
สวมหมวกว่ายน้ำทุกครั้ง แม้ไม่อาจช่วยปกป้องผมไม่ให้เปียกได้ แต่ก็ช่วยลดโอกาสที่จะให้เส้นผมสัมผัสกับน้ำและคลอรีนโดยตรงได้
ล้างผมให้เปียกทุกครั้งก่อนลงว่ายน้ำ และล้างคลอรีนออกจากเส้นผมทุกครั้งหลังขึ้นจากสระน้ำ
ชโลมผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์บาง ๆ ก่อนลงว่ายน้ำ ด้วยวิธีนี้คอนดิชั่นเนอร์จะช่วยเคลือบเส้นผมและปิดเกล็ดผมไม่ให้คลอรีนแทรก ซึมเข้ามาทำลายจนผมเสียความชุ่มชื้นมากนัก
หลังการว่ายน้ำ สระผมให้สะอาดด้วยยาสระผมประเภท Clarifying Shampoo ที่จะช่วยล้างคลอรีนที่ตกค้างอยู่ในเส้นผมออกได้ แล้วตามด้วยคอนดิชั่นเนอร์บำรุงผมชนิดเข้มข้น
ผู้ที่ว่ายน้ำเป็นประจำ ควรหาเวลาเข้าร้านทำผมเพื่อทำทรีตเม้นต์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการคลายร้อนที่ทะเล แม้น้ำทะเลจะไม่ทำร้ายเส้นผมเท่ากับคลอรีน แต่แดดจัด ๆ ก็ทำให้ผมแห้งกระด้างได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันเส้นผมจากแสงแดด อย่างสเปรย์กันแดด หรือลีฟออนคอนดิชั่นเนอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ทั้งยังช่วยให้เส้นผมไม่แห้งพันกันง่ายจากลมทะเลด้วย
นอกจากนี้เรายังมีสูตรครีมหมักผม ที่จะช่วยล้างเส้นผมคุณจากคลอรีนแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์ราคาแพงมาฝากกันด้วยค่ะ
ส่วนผสม
น้ำเลมอนหรือน้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
เบคกิ้งโซดา หรือ โซเดียมไบคาร์บอเนต 2 ช้อนโต๊ะ
ยาสระผมสูตรอ่อนโยน 1 ช้อนชา
วิธีใช้
1. ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี
2. ล้างผมให้เปียก แล้วนวดส่วนผสมนี้ให้ทั่วทั้งเส้นผมและหนังศีรษะ อย่าลืมชโลมให้ทั่วทั้งปลายผมด้วย
3. หมักทิ้งไว้ด้วยการใส่หมวกอาบน้ำ หรือแวร็ปด้วยพลาสติกใส ทิ้งไว้ 30 นาที
4. ล้างออกแล้วสระผมตามปกติ
ด้วยคุณสมบัติของโซเดียมไบคาร์บอเนตซึ่งช่วยสลายสารพิษตกค้าง จะช่วงล้างเอาคลอรีนออกไปจากเส้นผมของคุณ ทั้งนี้อย่าลืมตบท้ายด้วยบำรุงผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์ทุกครั้งนะคะ
รู้วิธีป้องกันเส้นผมจากคลอรีนตัวร้ายในสระว่ายน้ำแบบนี้แล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็กระโดดลงสระว่ายน้ำได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวผมเสียแล้วล่ะค่ะ
 
 
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Blogger.com ค่ะ
 
สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
Tel: 087-084-2233

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

การเตรียมพร้อมสำหรับการดำน้ำตื้น


 
-การไปเที่ยวเพื่อการดำน้ำ จะต้องประมาณตนเองว่ามีสุขภาพแข็งแรงเพียงพอ นอกจากจะเพื่อความปลอดภัยของตนเองแล้ว ยังไม่เป็นภาระของผู้อื่นด้วย
ผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นแต่อยากไปดำน้ำตื้นกับเพื่อนด้วย ควรมีความพร้อมทั้งร่างกายคือแข็งแรงและพร้อมด้านจิตใจ คือต้องไม่กลัวจมน้ำ ธรรมชาติของร่างกายคนเราเวลาที่ลงน้ำจะลอย ยิ่งมีชูชีพพยุงตัวอยู่ด้วยแล้วรับรองไม่จมแน่ แต่มักจะบังคับการลอยตัวไม่เป็น ขอบอกว่าไม่ยาก ลองทำแบบนี้ซิ ถ้านอนหงายต้องการจะตั้งตัวตรงให้งอเข่าทั้งสองข้างขึ้นแล้วตัวจะตั้งตรงเองแล้วยืนขาตรงให้เป็นปกติ แต่ถ้านอนก้มหน้าต้องการตั้งตรงก็ให้งอเข่าอีกเช่นกันเมื่อตั้งตรงแล้วก็ยืดขาตามปกติ
-การออกไปดำน้ำดูปะการัง ควรไปด้วยกันอย่างน้อย 2 คน เสมอ เพระหากเกิดเหตุก็สามารถช่วยกันได้ ไม่ควรไปคนเดียวเด็ดขาด
-ควรหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมของธรรมชาติที่ไม่เหมาะต่อการดำน้ำ เช่น มีคลื่นรุนแรง ฝนตกหนัก บริเวณที่มีหน้าผาหินแหลมคม น้ำทะเลขุ่นมัวไม่ใส เป็นต้น
-การดำน้ำตื้นควรมองในมุม 30 องศา เพราะจะสามารถมองดูสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลได้ดี ไม่ว่าจะเป็นปลา ปะการัง สัตว์น้ำอื่นๆ ในสภาพสิ่งแวดล้อมได้กว้างกว่าในมุมเดียวกันกับคนที่ว่ายมาด้วยกันก็ไม่สามารถมองเห็นเหมือนกัน
-การดำน้ำดูปะการังไม่ควรรีบว่าย ควรค่อยๆ ว่ายช้าๆ ดูดีๆ มีปลาที่พรางตัวให้เข้ากับธรรมชาติ หรือซ่อนอยู่ตามซอกหลีบปะการัง หรือหนอนฉัตรหลากสีตามโขดหินหรือ แม้แต่ปู หอย ตัวเล็กตัวน้อย อีกมากมาย จะทำให้เรามีการสังเกตมากขึ้นและได้เห็นมากกว่าคนอื่น
-ห้ามจับหรือไปสัมผัสสัตว์น้ำทุกชนิด เพราะว่าส่วนใหญ่จะมีพิษเพื่อป้องกันตัว อย่างสุภาษิตที่ว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก สัตว์น้ำก็ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน แม้ว่าสัตว์บางชนิดไม่มีพิษ แต่มีสิ่งแวดล้อมแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันช่วยป้องกันอันตรายให้ เช่น ปลาการ์ตูน ไม่มีพิษ แต่อาศัยอยู่กับดอกไม้ทะเลที่มีเข็มพิษอยู่ ดังนั้น ปลาการ์ตูนมีสีสรรสวยงามเพื่อหลอกล่อให้ปลาอื่นเข้าใกล้ และเป็นอาหารให้ดอกไม้ทะเล ในขณะเดียวกันดอกไม้ทะเลก็มีเข็มพิษไว้ดักจับปลาที่ถูกหลอกมาเป็นอาหาร เป็นการป้องกันปลาการ์ตูนไปด้วย ดังนั้น เห็นปลาการ์ตูนสวยๆ ไม่ควรไปจับเพราะอาจโดนเข็มพิษของดอกไม้ทะเลได้ หรือแม้แต่ปลิงทะเลที่ดูนิ่มๆ ไม่มีพิษ หากจับมันมาโยนเล่น น้ำ้ำเมือกใต้ท้องของปลิงที่พ่นออกมาทำให้ตาบอดได้

 
-เมื่อว่ายน้ำเข้าไปในบริเวณที่มีปะการังตื้นมากๆ ควรลอยตัวนิ่งๆ แล้วใช้มือค่อยๆ แหวกว่ายออกไปให้พ้นจากบริเวณนั้นโดยไม่เตะเท้าหรือตีนกบ เพราะอาจถูกปะการังจนแตกหักพังทลายได้ และหากเสียหลักเมื่อถูกคลื่นซัดอย่าใช้ขาเหยียบพื้น เพราะอาจทำลายปะการังและทำให้เราได้รับบาดเจ็บได้ แต่ควรปล่อยให้ลอยไปตามคลื่น ถ้ารู้ว่าจะถูกปะการังหรือกระแทกกับโขดหินก็ต้องพยายามใช้บริเวณปลายนิ้ว หรือฝ่ามือดันออกมา
-ห้ามยืนบนปะการังเด็ดขาด เพราะว่าปะการังจะโตประมาณ 1 ปี แค่ 1 เซนติเมตร บนก้อนปะการังหนึ่งก้อนประกอบด้วยปะการังเล็กๆ หลายๆ ตัวรวมกัน และเป็นการสร้างรูปร่างให้พอกับการรับน้ำหนักของตัวประการังเองเท่านั้น การที่ไปเหยียบบนปะการัง หมายถึงความตายของปะการังหลายร้อยตัว และบางครั้งการไปยืนบนโขดหินที่มีเพรียงเกาะอยู่ ก็อาจจะบาดเท้าได้ หรือตามปะการังมีเม่นทะเลอยู่ อาจทิ่มตำเท้าให้เจ็บแสบได้
-ระหว่างขึ้นหรือลงเรือนั้นควรรอให้เรือจอดสนิท ห้ามเอามือจับกาบเรือหรือเดินบนกาบเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาจอดเทียบท่าหรือจอดเทียบเรือลำอื่น
-เวลาลงน้ำ ควรหันหน้าเข้าหาเรือ ลงตามบันไดเรือ เมื่อถึงน้ำให้ผลักตัวออกจากเรือ อย่าโดดน้ำเพราะไม่รู้ว่าความลึกของน้ำแค่ไหน อาจจะไปทำปะการังหัก และท่านเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการชน กระแทก โขดหินได้
-เมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือดังขึ้น ควรสำรวจดูว่าเรือลำนั้นจะวิ่งมาทางที่เราดำน้ำหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเรือเร็วหรือสกูตเตอร์ ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
-อย่าว่ายเข้ามาใกล้เรือบริเวณหัวเรือและท้ายเรือ เพราะหัวเรืออาจถูกคลื่นโยนตัวและกระแทกถูกเราจนได้รับบาดเจ็บได้ ส่วนท้ายเรือมีใบพัดซึ่งมีนักดำน้ำหลายคนเสียชีวิตเพราะใบพัดเรือมาแล้ว
-ควรดื่มน้ำมากๆ ก่อนลงทะเล เพราะเวลาเราว่ายน้ำ มีการสูญเสียน้ำในร่างกายมาก การดื่มก่อนจะทำให้เราไม่หิวกระหายได้ง่าย
-ห้ามทิ้งขยะลงทะเล หากเห็นขยะลอยอยู่ก็ช่วยๆ กันเก็บขึ้นมา เพื่อเป็นการอนุรักษ์ท้องทะเลบ้านเราให้คงอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน


ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Multiply.com ค่ะ
 
 
สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่

Tel: 087-084-2233

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคการเลือกชุดว่ายน้ำให้เหมาะกับรูปร่าง

ร้อน ร้อน ร้อน เหงื่อแตกซิกแบบนี้ อย่ามัวแต่กลัวหลบแดดอยู่ในบ้าน แต่ได้เวลาแห่งการโชว์สัดส่วนโดดน้ำตูมตูมแล้วนะจ๊ะสาวๆ

และ..หากใครไม่กล้าใส่ ชุดว่ายน้ำ ยกมือขึ้นสูงๆ อย่าไปมัวเขินอายกันเลยจ๊ะ แต่หากคุณไม่กล้าที่จะใส่ชุดว่ายน้ำเพราะหุ่นไม่เป๊ะ! หุ่นแห้งเหี่ยว หรือสะบึมอึ๋มไปทั้งร่าง งั้นเรามีเทคนิกหาชุดว่ายน้ำเลิศๆ เด็ดๆ ไว้ใส่ขยี้ใจชายมาฝากกันค่ะ

เทคนิคเลือกวันพีซ
ขอนำเทคนิคสุดง่าย ในการเลือกชุดว่ายน้ำแบบวันพีช (1 piece) หากคุณเป็นสาวที่มีหน้าอกเล็ก แฟบ แบนแต้ดแต๋เป็นไม้กระดาน ควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบวันพีช ที่มีทรงเสริมในตัว เพื่อรูปร่างที่ดูดีสมส่วน

หรือถ้าคุณเป็นสาวขาสั้น มะขามข้อเดียว ควรใส่ชุดว่ายน้ำแบบวันพีช ที่มีขาเว้าสูงขึ้นไป เพื่อทำให้ดูขายาวเรียวขึ้นนะ

อ๊ะ! แต่ถ้าเป็นสาวขาใหญ่ สะโพกทอร์นาโด ชุดว่ายน้ำแบบวันพีชควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบกระโปรงคลุมเพื่ออำพรางสะโพกอันเบ้อเริ่มเทิ้มจะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นนะฮะ

เทคนิคเลือกทูพีซ
->สาวอกบึ้ม
สาวอกโต ล้นทะลัก ใครว่าแซ่บ เพราะมันทั้งหนักอกหนักใจ จะหาชุดว่ายน้ำทีก็หวั่นพวกถ้ำมอง เพราะทะลักทะล้นจนคนมองแต่หน้าอก!

แล้วจะเลือกอย่างไรล่ะ…ห้ามเด็ดขาด ชุดว่ายน้ำแบบเกาะอก สายสปาเก็ตตี้ สายเดี่ยวเสียวหลุดทั้งหลายแหล่ เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันหลุดโพล๊ะ!ได้ ถ้าไม่อยากโป๊ลอง ชุดว่ายน้ำแบบคล้องคอ มีแบบเก๋ๆให้เลือกเพียบ ใครจะเลือกแบบทูพีซ (2 pieces) เน้นชุดที่มียางยืดใต้หน้าอกหนาๆเล็กน้อย หรือจะเป็นแบบมีโครงก็จะช่วยเก็บทรงให้ดูดีขึ้นด้วยอีกแน่ะ

->สาวอกแฟบ
สาวอกเล็กแบนแต๊ดแต๋มักจะเข้าใจผิดว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำแบบปกปิดมิดชิดอย่างชุดเต็มตัว เพื่ออำพรางรูปร่าง แต่แบบนั้นจะทำให้ดูแบนราบเป็นไม้บรรทัดไปทั้งตัว ควรเลือกชุดที่คอวีลึกนิดๆ มีสายคล้องคอ หรือทูพีชเสริมฟองน้ำให้อกตูมเล็กน้อย จะช่วยให้เป็นสาวอกเล็กแบบสมส่วน

->สาวลำตัวยาว
สาวที่มีช่วงเอวยาว ถ้าใส่บิกินี่น้อยชิ้นเมื่อไหร่ดับอนาถแน่แท้ เพราะจะเป็นการเน้นช่วงเอวที่ยาวอยู่แล้ว ให้ยืดยาวหนักเข้าไปอีก

ควรจะพรางเอวด้วยชุดว่ายน้ำทูพีชที่ท่อนบนยาวลงมาใต้อกตั้งแต่ 3 นิ้ว จะคลุมถึงเอวหรือยาวไปจนถึงปิดสะดือก็ได้ ส่วนท่อนล่างเป็นบิกินี่แบบไฮคัต (Hi Cut) จะทำให้รูปร่างดูสมส่วนมากขึ้น


->สาวเอวสั้น
อย่าเด็ดขาดไม่ควรปกปิดหน้าท้องหรือพุงกระทิด้วยชุดแบบกางเกงขาสั้นเอวสูง ควรจัดเต็มกับชุดทูพีชสไตล์เอวต่ำหรือมีลายแบบทางลงจะช่วยให้ช่วงเอวดูยาวสมส่วนขึ้น

หรือชุดวันพีชคอวีลึกที่มีโบว์หรือเข็มขัดตกแต่งตรงสะโพกดึงดูดสายตา หรือชุดว่ายน้ำที่มีลายเส้นแบบทะแยงมุมก็เหมาะใช่เล่น

->สาวอวบอ้วน
แม้ชุดว่ายน้ำส่วนใหญ่จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสาวอวบตุ้ยนุ้ย แต่เราก็สามารถเลือกใส่ให้ดูดีได้ แนะนำให้เลือกชุดทูพีชที่เหมือนเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เอาแบบให้โชว์สะดือกรุบกริบ

หรือคอวีคว้านลึกๆ ก็จะช่วยเบนความสนใจของหุ่นเราได้ หรือแบบที่มีการตกแต่งระดับใต้อก ช่วยปิดพุงได้ดีเลยล่ะ

->สาวต้นขาใหญ่
ถือเป็นเฉพาะส่วนที่สาวหลายคนสะพรึงกลัวหั่นวิตกกันหลายนางขาใหญ่เป็นโต๊ะสนุกขนาดนี้ ชุดว่ายน้ำน้อยชิ้นจะพรางไงไหวล่ะ

ห้ามเด็ดขาด ปิดท่อนล่างจนเกินเหตุ บางทีการที่เราตั้งใจปกปิดมากไปก็ทำให้มันเด่นมากขึ้นนะลอง เลือกชิ้นบนให้มีลูกเล่น หรือสีสันฉูดฉาด เพื่อดึงความสนใจ แล้วเลือกชิ้นล่างเป็นกระโปรงที่ไม่พองจนเกินไป หรือแบบกางเกงขาสั้น จะทำให้พรางขาโต๊ะสนุกได้ดีเลยเชียวล่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ผู้จัดการ online ค่ะ

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233

วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีทำให้เสื้อผ้าเรียบโดยไม่ต้องใช้เตารีด



เวลาเราเดินทางส่วนใหญ่จะเซ็งกับปัญหาชุดสวยของคุณยับยู่ยี่หลังจากนำออกจากกระเป๋าเดินทาง แต่เคล็ดลับนี้จะทำให้คุณหมดปัญหานั้นได้สบายๆ ค่ะ โดยไม่ต้องพึ่งเตารีดกันเลยค่ะ มีอะไรบ้างลองทำดูนะคะ

1 ใช้ไดร์เป่าผม โดยทำให้บริเวณรอยยับเปียกน้ำพอหมาดๆ จากนั้นใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้แห้ง รอยยับก็จะหายไปค่ะ

2 ใช้ผ้าขนหนูหมาด โดยวางเสื้อผ้าที่ยับลงบนพื้นเรียบๆ แล้วนำผ้าขนหนูหมาดๆมาวางทับด้านบน จากนั้นใช้มือรีดผ้าให้เรียบ เสื้อผ้าของคุณก็จะเรียบไปด้วยค่ะ

3 ใช้เครื่องทำน้ำอุ่น โดยแขวนเสื้อผ้าที่ยับไว้ในห้องน้ำแล้วเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ร้อน เปิดน้ำทิ้งไว้ ระวังอย่าให้น้ำกระเด็นโดนเสื้อผ้า แล้วปิดประตูห้องน้ำนานประมาณ 15 นาที ไอน้ำร้อนจะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณเรียบได้ค่ะ

4 ใช้กาต้มน้ำ หลักการคล้ายกับเครื่องทำน้ำร้อน คือ ต้มน้ำให้เดือด แล้วใช้ไอน้ำที่ออกจากพวยกา อังไปยังเสื้อผ้าที่มีรอยยับที่แขวนไว้ รอยยับก็จะหายไปค่ะ

5 ใช้เครื่องรีดผม เครื่องรีดผมจะมีคุณสมบัติคล้ายเตารีด โดยเปิดเครื่องรีดผมที่ความร้อนระดับปานกลาง จากนั้นก็ไปรีดเสื้อผ้าบริเวณที่ยับ แต่อย่างแช่ทิ้งไว้นานเกินไป เพราะอาจจะทำให้เสื้อผ้าของคุณขาด หรือไหม้ ได้ค่ะ

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233
เคล็ดลับการเดินทางแบบ Backpacker


       อะไรคือ Backpacker คุณอาจสงสัย มันคือการท่องเที่ยวแบบหิ้วเป้ 1 ใบแล้วไปลุยกันประมาณนี้ แต่อะไรบ้างหละที่เราจะต้องเอาไปด้วย มาดูกัน

1. กระเป๋าสัมภาระ หรือ เป้ …. เป็นสิ่งแรกเลยที่เราจะต้องมองหาไว้ เพราะถ้าไม่มีกระเป๋า เราก็จะนำสัมภาระต่างๆ ไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น เราจะต้องเลือกกระเป๋าให้เหมาะสมกับการเดินทางแบบ Backpacker ซะก่อน โดยเลือกให้มีขนาดที่สามารถสะพายไหว ไม่ใหญ่จนเกินไป และมีช่องใส่ของมากๆ เข้าไว้ยิ่งดี

2. เสื้อผ้า ?. เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ Backpacker จะต้องเตรียมไว้ โดยคำนึงถึงโปรแกรมการเดินทางว่าคุณจะไปสถานที่ท่องเที่ยวประเภทไหนบ้าง ส่วนใหญ่จะเตรียมกางเกงไปไม่เกิน 3 ตัว เสื้อไม่เกิน 5 ตัว และชุดชั้นในประมาณ 3 ? 4 ชุด เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนชุดควรจะรีบซักไว้ เพื่อเอาไว้ใส่วันถัดไปของทริป

 3. ยารักษาโรค …. เป็นสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือถ้าไม่มีโรคประจำตัว อย่างน้อยก็ต้องพก พาราเซตามอล ไปซักหน่อย ยาหม่อง ยาดม พลาสเตอร์ยา แอลกอฮอล์ล้างแผล เป็นต้น

4. ผ้าเช็ดตัว และอุปกรณ์ในการอาบน้ำ …. ไม่ต้องเตรียมไปผืนใหญ่มาก แค่พอเช็ดตัวให้แห้งและสามารถนุ่งได้มิดชิดก็พอ จะได้ประหยัดเนื้อที่ในการกระเป๋าได้ ส่วนอุปกรณ์ในการอาบน้ำ ได้แก่ สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ยาสระผม หรืออื่นๆ เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

5. รองเท้าแตะ …. นำไปเปลี่ยนสลับกับรองเท้าผ้าใบบ้างในบางครั้ง โดยเลือกแบบราคาไม่แพง และพร้อมที่จะทิ้งได้ตลอดเวลา

6. กล้องถ่ายภาพ และอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น ….. เป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ไม่น้อยสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อเวลาเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ก็ควรจะมีเครื่องบันทึกความทรงจำอย่างกล้องถ่ายภาพ เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก และนำไปแชร์ให้กับคนอื่นๆ ดูได้ ว่าเราเคยไปเที่ยวที่นั่นมาแล้ว

7. หนังสือหรือคู่มือนำเที่ยว ….. ควรพกติดตัวไปไว้ด้วย จะได้ไม่พลาดกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ในบริเวณที่เราเดินทางไป

8. ไฟฉาย ….. เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอีกอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลาที่เราเดินทางไปในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย โดยเฉพาะในเวลาค่ำคืน

9. มีดพกเอนกประสงค์ ….. ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น และอาจจะมีประโยชน์ในบางโอกาส อย่างเช่น การป้องกันตัวจากผู้ประสงค์ร้าย

10. ถุงพลาสติก ….. เป็นสิ่งที่อาจจะมีความจำเป็นในบางเวลา อย่างเช่น นำมาใส่สิ่งของเพื่อป้องกันไม่ให้เปียกน้ำ หรือไว้ใส่เสื้อผ้าที่เปียกน้ำก็ได้ค่ะ

สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
E-Mail: Nanfahtour@gmail.com
Tel: 087-084-2233

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

หลวงพระบาง
 

 
หลวงพระบางในอดีต เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลาวมาช้านาน เนื่องจากเคยเป็นเมืองหลวงที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตหลายพระองค์ ความรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรมในอดีตยังคงปรากฏให้เห็นแม้ในช่วงเวลาปัจจุบัน กาลเวลาที่ผ่านไป ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนลาวที่นี่มากมายนัก ด้วยเคยเป็นพื้นที่ ที่เข้าถึงได้ยากมาก่อน คนลาวยังโอบอ้อมอารี สุภาพ นิ่มนวลและเป็นมิตร เสน่ห์ของเมืองที่ยากจะหาที่ไหนในโลกมาเทียบได้ หลวงพระบาง เป็นเมืองที่อุดมด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรของวัดวาอาราม บ้านเรือนเก่าแก่สไตล์โคโลเนียล สถาปัตยกรรมที่สวยงามมีเสน่ห์ของยคอาณานิคม และการวางผังเมืองที่ฉลาด ซึ่งทำให้เมืองหลวงพระบางกลมกลืนเข้ากับสภาพภูมิประเทศที่ถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขาโดยรอบ และการที่เมืองตั้งอยู่ริมสายน้ำโขงและสายน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกัน ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของป่าเขา การเข้าถึงจากโลกภายนอกในอดีตจึงทำได้ไม่ง่ายนัก ชาวหลวงพระบางจึงยังคงสามารถดำรงขนบธรรมเนียมประเพณีที่เก่าแก่เอาไว้ ความเรียบง่ายของวิถีชีวิต รอยยิ้มที่เป็นมิตรของผู้คน ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีที่ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา ยังเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ที่เมืองเล็กๆแห่งนี้ อีกทั้ง หลวงพระบางยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องของความสวยงามและจำนวนวัดเก่าแก่ที่มีอยู่มากมายมาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมถึงการที่ผู้คนยังสามารถดำรงขนบประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามไว้ได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้เอง ทำให้หลวงพระบางยังเปี่ยมด้วยลมหายใจของเมืองมรดกโลกที่น่าหลงใหลสำหรับผู้มาเยือนเสมอ
หลวงพระบาง หรืออาณาจักรล้านช้างในอดีต ได้รับการแต่งตั้งจากยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลก ด้วยเหตุผลคือมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย และมีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และ ชาวหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม หลวงพระบาง จึงได้รับการยกย่องและขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโกในเดือน ธันวาคม พ.ศ.2538

ประวัติหลวงพระบาง
ในอดีตหลวงพระบางเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลาวมาก่อนกรุงเวียงจันทน์ ตั้งแต่เมื่อครั้งอาณาจักรล้านช้าง ประวัติศาสตร์ของลาว มีความเกี่ยวเนื่องมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรหนองแส หรือน่านเจ้า (ตาลีฟู) ที่อยู่ในมณฑลหยุนหนานของจีน ขุนบรมราชาธิราช (พีล้อโก๊ะ) แห่งหนองแสมีโอรส 7 องค์ แยกย้ายไปครองเมืองต่างๆทั่วสุวรรณภูมิ ต่อมาโอรสองค์โตนาม ขุนลอ (โก๊ะล่อฝง) ได้เป็นกษัตริย์แล้วยกทัพมาตีเมืองชวาใน ค.ศ. 757 เปลี่ยนชื่อเมืองชวาเป็นนครเชียงทอง และมีกษัตริย์ครองเมืองเชียงทองสืบมาอีก 22 พระองค์

ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าฟ้างุ้ม พระองค์ได้รวบรวมแว่นแคว้นต่างๆของชนเผ่าไท-ลาวในเขตบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำคาน และแม่น้ำอู เพื่อก่อตั้งขึ้นเป็นอาณาจักรล้านช้างในระหว่าง ปี พ.ศ.1896-1916 ณ ดินแดนริมโขง ซึ่งปัจจุบันก็คือบริเวณหลวงพระบาง โดยความช่วยเหลือของกษัตริย์ขอม เนื่องจากมเหสีของเจ้าฟ้างุ้มคือ พระนางแก้วเก็งยา เป็นพระธิดาของกษัตริย์ขอมในขณะนั้น ดินแดนขอมในสมัยนั้น มีการรับนับถือศาสนาพุทธ และคติความเชื่อทางพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองแล้ว ในขณะที่ลาวยังคงนับถือผีกันอยู่ ในรัชสมัยของพระเจ้าฟ้างุ้ม จึงมีการถ่ายทอดและรับเอาศาสนาพุทธเข้ามาแทนการนับถือผี

เชื่อว่า เดิมทีเดียวอาณาจักรล้านช้างมีชื่อเรียกว่า “เมืองชวา” ด้วยมีชาวชวามาอาศัยอยู่มากกว่ากลุ่มอื่น แต่ใน ปี พ.ศ.1900 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “เมืองเชียงทอง” จนกระทั่งกษัตริย์ขอมได้พระราชทานพระพุทธรูปองค์หนึ่งชื่อ “พระบาง” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหล ให้กับอาณาจักรล้านช้าง เจ้าฟ้างุ้มจึงเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น “หลวงพระบาง”

ต่อมา ในปี พ.ศ.2088 พระเจ้าโพธิสารราชเจ้าได้โปรดให้ย้ายเมืองหลวงของอาณาจักรล้านช้างไปอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์แทน หลวงพระบางจึงไม่ได้เป็นเมืองหลวงของลาวอีกต่อไป ในช่วงยุคสมัยต่อมา อาณาจักรล้านช้างได้แตกออกเป็น 3 อาณาจักร คือ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจำปาสัก กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้างยังคงสืบทอดราชบัลลังก์มาจนถึงยุคสิ้นสุดราชวงศ์ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการตกเป็นเมืองขึ้นของเมืองสยามในขณะนั้น รวมถึงประเทศเวียดนามและฝรั่งเศส

หลวงพระบาง จึงมีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นราชธานีเก่าแก่ มีวัดวาอารามมากมาย มีบ้านเรือนเก่าเป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบโคโลเนียลสไตล์แบบตะวันตก ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกัน และโอบกอดให้ตัวเมืองอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งชาวหลวงพระบางยังมีบุคลิกที่เป็นมิตร โอบอ้อมอารี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีวิถีชีวิตและประเพณีที่งดงามและยังไม่สุญสลายไปตามกาลเวลา

 
สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
Tel: 087-084-2233 

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข่าวดีสำหรับทุกท่านที่รอคอย
คลอดแล้วจ้า!! ทริปเกาะหลีเป๊ะ และลังกาวี
    
                                                                                                  
วันที่ 1
สนามบินดอนเมือง – สนามบินหาดใหญ่ – ท่าเทียบเรือปากบารา – ตะรูเตา – หลีเป๊ะ

05.00 น. เบิกบานกันเต็มที่พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง ตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อม
        เพื่อฝากสัมภาระในการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 15 กิโลกรัมนะคะ
        และรับบัตรที่นั่ง เพื่อขึ้นเครื่องในเวลา “05:45 น.
06.00 . นกบินหลาออกจากสนามบินดอนเมือง สู่หาดใหญ่
07.25 . ถึงแล้วจ้า!! สนามบินหาดใหญ่ รับสัมภาระ และขึ้นรถโค้ชเฮฮาที่เราเตรียมแดนซ์กระจาย
            เพื่อเดินทางไปยังท่าเทียบเรือปากบารา
09.30 น. ณ..ท่าเทียบเรือปากบารา เตรียมตัวให้พร้อมกัน เรากำลังจะเดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ เกาะในฝัน
10.00 น. ระหว่างทางแวะเกาะตะรุเตา (ดินแดนแห่งโจรสลัด) นำท่านถ่ายภาพแห่งความประทับใจ
        หลังจากนั้นเดินทางแวะเกาะไข่ นำท่านชมซุ้มประตูหินแห่งรักพร้อมถ่ายภาพกับ
        สัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งจังหวัดสตูลไว้เป็นที่ระลึก
11.30 น. ถึงเกาะหลีเป๊ะ รับประทานอาหารกลางวัน ณ..รีสอร์ทที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัยนะคะ
16.00 น. นำท่านแวะเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเล เดินเล่น Walking Street บนเกาะหลีเป๊ะ
17.30 น. ชมพระอาทิตย์ตกที่ขอบฟ้าอันดามันใต้ ณ..Sunset Beach
18.30 น. บริการอาหารเย็น ณ..รีสอร์ทที่พัก


วันที่ 2
หลีเป๊ะ- หินงาม-จาบัง-เกาะดง-หินซ้อน-หาดทรายขาว-เกาะยาง-เกาะอาดัง
07.00 น. ทานอาหารเช้าเติมพลังกันก่อน ณ..รีสอร์ทที่พัก
08.00 น. นำท่านเดินทางสัมผัสกับความตื่นเต้น และความประทับใจกับการดำน้ำดูปะการัง ณ..เกาะดง-หินซ้อน
10.30 น. เดินทางต่อไปยังอ่าวไผ่-เกาะรอกลอย นำท่านเล่นน้ำหน้าชายหาดพร้อมกับหมู่ปลานานาชนิด
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ..ชายหาดเกาะรอกลอย
13.00 น. เดินทางต่อไปยังหาดทรายขาว-เกาะราวี นำท่านเล่นน้ำหน้าชายหาดพร้อมกับหมู่ปลานานาชนิด
        หลังจากนั้นนำท่านชมปะการังผักกาด ปะการังเขากวาง ณ..เกาะยาง และนำท่านเดินทางสู่เกาะหินงาม
        อันสวยงาม จากนั้นนำท่านชมปะการังเจ็ดสี และธรรมชาติใต้ท้องทะเลอันสวยงาม ณ..ร่องน้ำจาบั
16.30 น. ก่อนเข้าที่พัก นำท่านสู่เกาะอาดัง ถ่ายภาพความประทับใจ และเข้าสู่ที่พัก ณ..เกาะหลีเป๊ะ พักผ่อนตาม
           อัธยาศัย
18.00 น. บริการอาหารเย็น ณ..รีสอร์ทที่พัก


วันที่ 3
หลีเป๊ะ ปากบารา ลังกาวี - Cable car
07.00 น. ตื่นจ้า!! ทานอาหารเช้ากัน ณ..รีสอร์ทที่พัก
08.00 น. เตรียมตัวเดินทางสู่ลังกาวี โดยผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
09.30 น. ออกเดินทางจากหลีเป๊ะ สู่ลังกาวี
10.30 น. หลังขึ้นจากท่าเรือกัวห์ สิ่งแรกที่จะสังเกตเห็นได้ขณะลากกระเป๋าผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก็คือ
        นกอินทรียักษ์ที่อยู่ตรง จัตุรัสนกอินทรี หรือ ดาตารันลัง (Dataran Lang)
        สัญลักษณ์ของลังกาวีที่ตั้งอยู่ริมทะเลคอยต้อนรับผู้มาเยือน ตามตำนานเล่าว่า "ลังกาวี"
       มาจากนกอินทรี หรือ "เฮอลัง" ในภาษามาเลย์ ส่วนคำว่า "กาวี"
       หมายถึง สีน้ำตาลแกมแดง
11.00 น. นำท่านเดินทางสู่ Cable car นั่งกระเช้าลอยฟ้าสู่ยอดเขากูนุงมะจิจัง ชมทัศนียภาพรอบเกาะลังกาวี
            ถ่ายรูปที่ระลึกบนยอดเขาและเที่ยวชมความงดงามของหมู่บ้าน ORIENTAL VILLAGE ที่รวบรวม
            วัฒนธรรมของสี่ประเทศ คือ ไทย จีน ญี่ปุ่น และมาเลเซียเข้าด้วยกัน
12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน
14.00 น. นำท่านเดินทางสู่ตลาดกั๊วะเพื่อช้อปปิ้ง ร้านสินค้าที่ปลอดภาษี อาทิ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า
       กล้องถ่ายรูป รองเท้าหนัง ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับนกอินทรีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะลังกาวี
18.00 น. นำท่านสู่โรงแรมที่พัก รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย


วันที่ 4
สุสานมัสสุหรี - ตลาดกั๊วะ สตูลหาดใหญ่ – สนามบินหาดใหญ่ – สนามบินดอนเมือง
07.30 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
08.30 น. นำท่านเดินทางมนัสการสุสานพระนางไหมสุหรี ผู้สาปเกาะลังกาวีถึง 7 ชั่วอายุคน
        พร้อมฟังบรรยายประวัติพระนางไหมสุหรี แวะช็อปปิ้งตลาดกั๊วอีกหน่อยเพื่อเก็บตก
11.00 น. เดินทางไปท่าเรือเพื่อกลับสู่ประเทศไทย
12.00 น. เดินทางถึงท่าเทียบเรือตำมะลัง และรับประทานอาหารกลางวัน
14.30 น. นำท่านเดินทางสู่ตลาดตันหยง เพื่อช้อปปิ้งอีกครั้งหนึ่ง
17.30 น. ออกเดินทางจากตลาด ไปสู่สนามบินหาดใหญ่
18.00 น. เตรียมหนังสือเดินทางกันนะจ๊ะ แล้วโหลดสัมภาระ รับบัตรที่นั่ง
19.10 น. นกบินหลาอีกครั้งออกจากสนามบินหาดใหญ่
20.35 น. ถึงสนามบินดอนเมืองและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ


สนใจท่องเที่ยวไปกับน่านฟ้าเวิร์ลทัวร์ติดต่อได้ที่
ติดต่อ: 087-084-2233